คุณคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า“ ตาข่ายยิ่งใหญ่คุณก็จะจับปลาได้มากขึ้นเท่านั้น”
เมื่อพูดถึงการตลาดก็คงนึกถึงเรื่องปริมาณ หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีความปรารถนา
ที่จะประสบความสำเร็จในวันนี้ นี่คือสิ่งนึงที่คุณต้องยอมรับ
คุณไม่สามารถเลือกช่องทางการตลาดเพียงช่องทางเดียว แล้วเทงบประมาณทั้งหมดไปรวมไว้ที่นั่น
ธุรกิจที่จะประสบความสำเร็จสูงสุดได้นั้นควรมีการปรับกลยุทธ์อย่างรอบคอบเพื่อให้ครอบคลุมฐานต่างๆ ซึ่ง
ออกแบบมาเพื่อให้มีผลกับ ROI จากมุมมองของนักการตลาดดิจิทัลที่รู้สึกคัดค้านและไม่เห็นด้วยอย่างหนึ่ง เมื่อติดต่อกับธุรกิจอื่น ๆ คือ:
“ เราไม่สามารถทำ SEO ได้ เพราะเราได้ทุ่มงบประมาณการตลาดของเราไปกับการโฆษณาทาง
หนังสือพิมพ์และนิตยสารแล้ว”
อาจจะฟังดูบ้านะสำหรับคุณ แต่คุณอาจจะต้องถึงกับต้องประหลาดใจกับคนจำนวนไม่น้อย ที่ยังคงอยู่กับการ
ตลาดแบบเดิมๆ จนถึงทุกวันนี้ โดยที่พวกเขาไม่สนใจที่จะรับเอาการตลาดดิจิทัลมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในของกลยุทธ์ของพวกเขา
นั่นไม่ได้หมายความว่าการโฆษณาทางหนังสือพิมพ์และนิตยสารจะไม่คุ้มค่ากับขนาดที่เล็กลง เมื่อกำหนด
เป้าหมายไปยังกลุ่มเป้าหมายในท้องถิ่นนั้นๆ
อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการให้ลูกค้าเข้ามาหาคุณมากขึ้น แคมเปญการตลาดดิจิทัลควรเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณให้ความสำคัญ
ดังที่กล่าวมานั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องจดจำไว้ว่า SEO ไม่ใช่ “ส่วนสำคัญที่สุด” เมื่อพูดถึงการตลาด
หากคุณต้องการจะประสบความสำเร็จอย่างแท้จริงแล้ว คุณจะต้องกระจายกลยุทธ์การตลาดของคุณ
ในโพสต์นี้ เราจะดูกลยุทธ์ต่างๆที่สามารถและจะทำให้คุณมี ROI เพิ่มขึ้นได้กัน
1.การปรับแต่งเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพเพื่อเป็นการเพิ่มยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ (SEO)
ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว SEO เป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการจัดการคุณ
การเข้าชมที่เกิดขึ้นเองในปัจจุบัน มากกว่าถึง 50% ของการเข้าชมเว็บไซต์ทั้งหมด ซึ่งเป็นมากกว่าการโฆษณาที่มีค่าใช้จ่าย
และการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียเข้าด้วยกัน
ลองนึกภาพความเป็นไปได้เมื่อนำทั้งสามสิ่งนี้ไปใช้ในในแคมเปญการตลาดดิจิทัลของคุณดูซิ?
นอกจากนั้น กลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพและมีการแบบไว้ในตำแหน่งที่เหมาะสม
ส่งผลให้การยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ (traffic) ที่เกิดขึ้นนั้น สามารถคิดเป็นรายได้มากกว่า 40% ของรายได้ต่อปีของ บริษัท ของคุณ
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ หากรายได้ต่อปีของคุณเท่ากับ 800,000 ดอลลาร์ 320,000 ดอลลาร์จากจำนวนดังกล่าวนั้นอาจมาจาก
การยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ (traffic) ที่เกิดขึ้นเองจาก SEO ของคุณนั่นเอง
ณ ตอนนี้ สถิติเหล่านั้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมที่คุณอยู่ เว็บไซต์ของคุณจะต้องได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพในแง่ของการใช้งาน
และฟังก์ชันการทำงานใดบ้าง รวมทั้งผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณขายด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม โดยส่วนใหญ่แล้วสิ่งนี้ควรระบุโดยชัดเจนว่า คุณสามารถที่จะได้รับ ROI มากขึ้นได้อย่างไร เมื่อลงทุนใน SEO
กล่าวได้ว่า SEO ไม่ได้ประสบความสำเร็จในทันทีเลย
ซึ่งต้องใช้ความอดทนทำงานหนักและกลยุทธ์มากมาย เพื่อพาคุณไปยังที่ที่คุณต้องการ
ดังคำกล่าวที่ว่า: “คุณจะต้องเก็งกำไรเพื่อเป็นหารเก็บสะสม” เหมือนการสะสมแต้มบุญนั่นเอง
2. การลงโฆษณากับ Google Ads/การตลาดโฆษณาที่มีค่าใช้จ่ายเป็นรายคลิก (PPC)
สิ่งเหล่านี้จะมีความสำคัญสำหรับทุกคนที่ทำงานเกี่ยวกับ SEO หรือการครองอันดับทั่วไปใน Google (organic rankings)
แต่แน่นอนว่า มันอาจจะต้องใช้เวลาสักพักก่อนที่คุณจะไปถึงตำแหน่ง “ทอง” 3 อันดับแรก สำหรับกลุ่มคำค้นหาที่เป็นที่นิยม
ดังนั้น คุณสามารถทำอะไรได้บ้างในระหว่างนี้ เพื่อดูผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณ (ROI) ?
Google Search Ads (หรือ PPC) เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
สำหรับ กลุ่มคำค้นหาซึ่งเป็นที่นิยมแต่ยังไม่ได้รับการจัดอันดับในตอนนี้ คุณสามารถที่จะจ่ายเงินเพื่อให้เว็บไซต์ของคุณนั้น
ติดอันดับต้น ๆ ใน Google SERP’s ได้ (หน้าเว็บที่แสดงผลของการค้นหา)
ถ้าคุณจะได้รับการจัดอันดับที่ดีจะเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้มากขึ้น ถึงพวกเขาจะเห็นรายชื่อของคุณ 2-3 ครั้งก็แล้วก็ตาม
หากคุณมีส่วนร่วมในแผนที่ที่รวมรายชื่อร้านค้าต่างๆ ด้วยแล้ว อาจจะทำให้เว็บของคุณถูกเห็นได้เป็นครั้งที่ 4 ครั้ง
และถ้าหากคุณเป็นผู้ขายสินค้าใน Google Shopping
การรวมการทำโฆษณาบน Googleเข้ากับแคมเปญ SEO จึงเป็นวิธีที่ดีในการกระจายกลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของคุณ
แต่การทำเช่นนี้ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียแน่นอน
ในขณะที่อัตราอัตราการคลิกต่อจำนวนการมองเห็น (CTR) โดยเฉลี่ยสำหรับโฆษณาในอันดับแรกคือ 7.94%
แต่ผู้เข้าชม PPC มีแนวโน้มที่จะซื้อบางอย่างมากกว่าผู้เข้าชมทั่วไปถึง 50%
นอกจากนั้นธุรกิจส่วนใหญ่ที่ใช้ PPC ได้กล่าวไว้ว่าทุกๆ 1 ดอลลาร์ที่พวกเขาใช้จ่ายพวกเขาสามารถทำยอดขายได้ 2 ดอลลาร์
ซึ่งหมายความว่า โดยเฉลี่ยแล้วหากคุณจ่ายไป 1,000 ดอลลาร์ ใน PPC คุณจะได้รับผลตอบแทนที่ 2,000 ดอลลาร์
แน่นอนว่าโดยส่วนมากแล้วจะขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมที่คุณอยู่ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณขายด้วย
อย่างไรก็ตาม เมื่อทำทุกอย่างอย่างถูกต้องครบถ้วนแล้ว ผลกำไรที่ได้รับจากแคมเปญโฆษณาที่ได้รับการปรับให้เหมาะสม
จะครอบคลุมการลงทุนรายเดือนของคุณใน SEO ในขณะที่คุณกำลังรอเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาแบบปกติทั่วไป (organic results)
หากคุณต้องการพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อที่เราจะได้หาแคมเปญโฆษณาที่ออกแบบมา
เพื่อให้ดึงดูดการเข้าชมที่ตรงเป้าหมายมายังเว็บไซต์ของคุณเพียงแค่การติดต่อที่ง่ายๆ
3.การทำโฆษณาผ่าน Social Media
การทำการตลาดบน Social Media นั้นไม่สามารถประเมินค่าได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เมื่อพูดถึงการติดต่อกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ
และได้มีปฏิสัมพันธ์กับพวกเขาในระดับส่วนตัว แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง Social Media
ที่สามารถกระตุ้นยอดขายของคุณได้อย่างมากก็คือ
การทำโฆษณาบน Social Media ผ่าน Facebook, Instagram หรือ LinkedIn
คุณสามารถลงทุนในโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่ายได้ ซึ่งจะเป็นการกำหนดเป้าหมายผู้ใช้ที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์และบริการที่คุณนำเสนอนั่นเอง
แน่นอนว่าคุณจะประสบความสำเร็จได้นั้นก็ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมที่คุณอยู่ด้วย
ตัวอย่างเช่น บริษัทตัวแทนจัดหางานนักเขียน Resume และธุรกิจต่างๆ ซึ่ง “ธุรกิจ”
ที่มีความเกี่ยวข้องจะประสบความสำเร็จมากขึ้น ผ่านการทำโฆษณาบน LinkedIn
สำหรับบริษัท ที่มี “การมองเห็น” มากขึ้น เช่น ช่างภาพ นักวางแผนงานแต่งงาน และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดเลี้ยง, Instagram มีแนวโน้มที่ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ
สิ่งที่สวยงามเกี่ยวกับการโฆษณาบนโซเชียลมีเดียคือ คุณสามารถที่จะจ่ายน้อยหรือมากได้เท่าที่คุณต้องการ
สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่มีงบประมาณการตลาดจำนวนไม่มาก สามารถเริ่มต้นได้ด้วยการจ่ายรายเดือนเล็กน้อยๆ
และยังคงได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI)
แน่นอนว่า มีทั้งวิธีที่ถูกและผิดที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ว่าจะต้องร่วมมือกับผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ
เพื่อสร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงดูดให้มีผู้ที่เข้ามาชมและเปลี่ยนพวกเขาจาก “คนที่คลิกให้เป็นลูกค้า”
4. การตลาดทาง Email
การตลาดทางอีเมลเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดที่ถูกประเมินค่าต่ำไปมากในปัจจุบัน แต่ก่อนที่เราจะ
ลงรายละเอียด เราไปดูตัวเลขต่อไปนี้กันก่อน:
- ในปัจจุบันมีผู้ใช้อีเมลถึง 3.7 พันล้านคน
- คาดว่าตัวเลขเหล่านี้จะเพิ่มเป็น 4.1 พันล้านภายในปี 2564
- เฉพาะในสหรัฐอเมริกาเพียงอย่างเดียว มีการจ่ายถึง 350 ล้านดอลลาร์เพื่อการทำการตลาดผ่านอีเมลในปี 2019
- แคมเปญการตลาดทางอีเมลที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมมีค่าเฉลี่ย ROI อยู่ที่ 28.5%
- กว่า 59% ของนักการตลาดกล่าวว่า การตลาดทางอีเมลเป็นแหล่ง ROI ที่ใหญ่ที่สุดของพวกเขา
- โดยเฉลี่ยแล้วสำหรับการใช้จ่ายทุกๆ 1 ดอลลาร์จะมีการตอบแทนถึง 44 ดอลลาร์
แล้วมันทำงานอย่างไร?
มันง่ายมาก! แค่ใช้รายชื่อผู้ติดต่อปัจจุบันที่คุณมี คุณสามารถรวบรวม “รายชื่ออีเมล”
บุคคนเหล่านี้คือคนที่คุณจะกำหนดเป้าหมายด้วยเนื้อหาธรรมดา เนื้อหาดังกล่าวจะประกอบด้วย:
จดหมายข่าว: เพื่อเป็นการอัพเดทให้ลูกค้าทราบความเคลื่อนไหวต่างๆที่เกิดขึ้นกับแบรนด์และธุรกิจของคุณ
ข้อเสนอทางการตลาด: เพื่อเป็นการนำเสนอสินค้าหรือบริการล่าสุดของคุณที่มี พร้อมทั้งเสนอส่วนลด
Promotion codes และกระตุ้นให้พวกเขาใช้จ่ายในท้ายที่สุด!
ประกาศ: แจ้งให้ลูกค้าของคุณทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ ๆ ที่เราจะออกมาในเร็ว ๆ นี้!
คำเชิญเข้าร่วมกิจกรรม: บอกให้ทุกคนรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง! คุณกำลังจะมีกิจกรรมอะไรเกิดขึ้นหรือไม่?
ยิ่งมีการแจ้งบุคคลมากเท่าไร ก็ยิ่งมีแนวโน้มว่าจะมีผู้เข้าร่วมมากขึ้นเท่านั้น
ความจริงแล้วก็คือ การยกเลิกการขอยกเลิกรับอีเมลจากรายชื่ออีเมลนั้นเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ
ดังนั้นจึงไม่ใช่เป็นการคุกคามหรือรบกวนแต่อย่างใด (ซึ่งเจ้าของธุรกิจหลายคนกังวลว่าเป็นเช่นนั้น)
คุณสามารถทีจะติดต่อได้เฉพาะผู้ที่ลงชื่อลงชื่อเข้าใช้และอนุญาตให้เข้าถึงเท่านั้น
สิ่งที่ทำได้จริงนี้ เพื่อเป็นการตอกย้ำแบรนด์ของคุณให้อยู่ในใจของพวกเขานั่นเอง
ทุกครั้งที่พวกเขาเช็คอีเมล พวกเขาสามารถจะเห็นข้อเสนอพิเศษ โปรโมชั่น และข้อมูลอัปเดตจากธุรกิจต่างๆของคุณ พวกเขาก็จะถูกงับไปในที่สุด
ทำไมกัน? เพราะคุณจะเป็นบริษัทแรกๆ ที่พวกเขานึกถึงเมื่อเขาต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการที่บริษัท ของคุณมี
ทำไมคุณไม่ทดลองใช้มันเลยล่ะ?
5.โปรแกรมแนะนำลูกค้า
การใช้โปรแกรมแนะนำลูกค้า เป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่ใช้กันไม่มากนัก
สิ่งหนึ่งก็คือ มันสามารถนำไปใช้ได้ง่ายมากที่จะโดยที่มีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย
และสามารถขยายธุรกิจเพิ่มได้โดยที่ไม่ต้องการความช่วยเหลือใดๆ
ขั้นตอนง่ายๆคือ: –
นำเสนอ incentive ให้ลูกค้าที่มีอยู่ในการแนะนำธุรกิจของคุณให้กับเพื่อนและครอบครัว ที่อาจจะสนใจในผลิตภัณฑ์หรือบริการที่มีความคล้ายคลึงกัน
สิ่งนี้อาจจะเป็นแรงจูงใจในรูปของตัวเงิน หรือ คุณสามารถนำเสนอสินค้าเพิ่มเติม ส่วนลดและอื่นๆอีกมากมาย
การใช้ความคิดสร้างสรรค์ในขั้นตอนนี้ รวมถึงการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้ามากขึ้นนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าเกิดการแนะนำต่อ!
6.Remarketing / Retargeting
การกำหนดเป้าหมายใหม่กำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นในโลกของการทำการตลาด เนื่องจากทำงานได้อย่างดีเยี่ยม
แทนการทำโฆษณากับผู้ที่ไม่เคยติดต่อหรือมีความสนใจใด ๆ ในธุรกิจของคุณมาก่อน คุณสามารถ “Retarget”
กับผู้ที่เคยเข้ามาชมสินค้า หรือเคยมี Action ใด ๆ ในเว็บไซต์ของเรา
ตัวอย่างเช่น:
การทำ Retargeting ad บน Facebook สำหรับธุรกิจ หรือ การทำโฆษณาในเครือข่ายของ Google Adwords นั้น
โฆษณาที่มีตราสินค้าของเราจะแสดงต่อผู้ใช้งานที่เพิ่งเข้าชมเว็บไซต์ของเรา
พวกเขาคงจะมีความคุ้นเคยกับแบรนด์ของคุณอยู่แล้ว และอาจจะใกล้ถึงจุดที่ต้องชำระเงินแล้ว!
ลองคิดดูซิว่าการทำ Retargeting นั้นเหมือนกับว่าเป็นการกระตุ้น “ทำมันเลยซิ!” ของการทำการตลาด
ทำให้ผู้มีโอกาสเป็นลูกค้าได้รับ “การสะกิด” เล็กๆน้อยๆ เพื่อดึงดูดเขาเหล่านั้นเข้าไปสู่ธุรกิจ
7. กลยุทธ์การตลาดผ่านทีมงาน
อย่าดูถูกพลังของพนักงานของคุณเชียวนะ
การทำการตลาดผ่านทีมงานนั้นไม่สามารถใช้ได้กับทุกอุตสาหกรรม
แต่สำหรับบริษัทค้าปลีกและบริการเป็นฐาน มันสามารถทำงานได้อย่างดีเลยทีเดียว
มันง่ายมากๆเลย
คุณสามารถเสนอส่วนลดและแพ็คเกจสิทธิประโยชน์ต่างๆให้กับพนักงานของคุณ เพื่อให้พวกเขาสามารถใช้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์หรือบริการที่คุณนำเสนอได้
สิ่งนี้จะทำให้คุณมีโอกาสเฉพาะ เป็นการเปิดรับในการลงทุนโดยพื้นฐานได้ฟรีๆ
ความพึงพอใจของพนักงานที่มีความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณและได้ใช้งานเป็นการส่วนตัวอยู่แล้ว
มีแนวโน้มที่จะแนะนำให้กับเพื่อน ครอบครัวรวมถึงพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้บนโซเชียลมีเดียได้
นี่เป็นการหว่าน “ แหขนาดใหญ่” และมันครอบคลุมทุกอย่าง!
บทสรุป
นี่เป็นเพียงแนวคิดบางส่วนเท่านั้น ที่จะสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับความคิดสร้างสรรค์เล็กๆน้อยๆได้
แนวคิดก็คือ อย่าเสี่ยงเอาทุกอย่างหรือลงทุนลงแรงไปกับสิ่งๆเดียว
ใช่แล้ว แน่นอนว่าคุณควรให้ความสำคัญกับการทำ SEO ของคุณเป็นอย่างมาก แต่ยังมีช่องทางการตลาดอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถทำไปพร้อมๆกัน!
คุณต้องการตั้งเป้าหมายในการทำงานร่วมกันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อนำกลับไปสู่การจ่ายเงินของคุณในที่สุด!
หากคุณรู้สึกเป็นกังวลเล็กๆน้อย และต้องการที่ปรึกษาที่รู้สึกเป็นมิตร โปรดอย่าลังเล ติดต่อเรา มาได้เลย
เราพร้อมที่จะนำเสนอบริการทางการตลาดที่หลากหลาย รวมไปถึงกลยุทธ์ที่จะนำไปสู่ประสบความสำเร็จให้กับคุณได้!