ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดบน YouTube และสื่อออนไลน์ กรุงเทพฯ
คุณอยากจะพาธุรกิจของคุณไปสู่ระดับสากล กับการทำการตลาดบนหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ใหญ่ที่สุดในโลกหรือไม่ ที่ที่จะทำให้คุณมีโอกาสเชื่อมต่อกับสผู้ชมกว่า 2 พันล้านคนต่อเดือน ถ้าอย่างนั้น การทำการตลาดบน YouTube และสื่อวิดีโอออนไลน์ของเราอาจช่วยคุณได้
Need Google Display Ads?
We've Got You Covered!

เราสามารถช่วยคุณตัดสินใจว่าจะโยกย้ายงบประมาณของคุณไปให้กับสื่อไหน หรือทุ่มกับวิดีโอตัวไหนเพื่อให้คุณได้เข้าถึงผู้ชมได้มากที่สุด
มันอาจจะเป็นช่องทางที่ดูยุ่งยากไปซักหน่อย แถมเป็นการทำการตลาดที่ดูคล้ายแต่ไม่เหมือนซะทีเดียวกับการทำตลาดบนโซเชียลมีเดียอื่นๆ แต่บอกได้เลยว่าเรามีผู้เชี่ยวชาญที่มีพร้อมทั้งความสามารถและประสบการณ์ที่พร้อมจะช่วยเหลือให้แคมเปญของคุณมีศักยภาพในการเปลี่ยนเป็นยอดขายให้ได้สูงสุด
เราลองมาดูกันดีกว่าว่าโฆษณายบน YouTube มีอะไรให้เราใช้บ้าง และแตกต่างกันอย่างไร:
- ‘Skippable’ in-stream ads -โฆษณาที่กดข้ามได้
- ‘Non-skippable’ in-stream ads (and bumper ads) – โฆษณาที่กดข้ามไม่ได้
- Video discovery ads (or in-display ads) – โฆษณาแนะนำวิดีโอ
- Non-video ads (e.g., overlays and banners) – แบนเนอร์ต่างๆ
แต่ละอย่างแตกต่างกันอย่างไรบ้าง ลองดูกัน

1 – Skippable in-stream ads -โฆษณาที่กดข้ามได้
ใครที่ดูวิดีโอบนยูทูบบ่อยๆ ไม่น่าไม่มีใครไม่เคยเห็น โฆษณาประเภทนี้มักจะขึ้นมาก่อน หรือระหว่างที่วิดีโอกำลังเล่นอยู่ก็ได้ ซึ่งเราจะสามารถกดข้ามได้หลังจากดูไปแล้ว 5 วินาที
ซึ่งถือเป็นเรื่องดีของนักการตลาดหรือคนทำโฆษณาก็ได้ เพราะเราจะเสียเงินให้กับโฆษณานี้ก็ต่อเมื่อผู้ชมเลือกจะชมต่อหลังจากผ่าน 5 วินาทีแรกไปแล้วหรือกดเข้าโฆษณาเท่านั้น
โฆษณาเหล่านี้จะมีความยาวเท่าไหร่ก็ได้ ตั้งแต่ 12 วินาที ไปจนถึง 3 นาที เพราะหากเกินว่า 3 นาที ไม่ว่าจะเป็นโฆษณาใดๆ ก็ตาม ถือว่ายาวเกินไปทั้งหมด
เพราะฉะนั้นช่วง 5 วินาทีแรกถือเป็นช่วงที่สำคัญมากๆ ซึ่งแล้วแต่กลยุทธ์ของแต่ละคนว่าจะโฆษณาสินค้าได้ตั้งแต่ 5 วินาทีแรก หรือจะโน้มน้าวให้ผู้คนชมโฆษณาจนจบ
Sidebar: TrueView คือคำที่ YouTube ใช้เรียกโมเดลในการจ่ายเงินค่าโฆษณาตามยอดวิวที่ผู้ชมชมโฆษณาของเราจริงๆ
2 – ‘Non-skippable’ in-stream ads – โฆษณาที่กดข้ามไม่ได้
76% ของผู้ชมวิดีโอบน YouTube กดข้ามโฆษณาแน่นอน เพราะฉะนั้นธุรกิจหลายเจ้าก็เลยเลือกที่จะทำโฆษณาที่กดข้ามไม่ได้ ที่จะอยู่ก่อนและระหว่างวิดีโอมากกว่า
โฆษณาประเภทนี้จะช่วยเพิ่มการรับรู้แบรนด์ (brand awareness) เพราะมั่นใจได้ว่าผู้ชมจะเห็นโฆษณาของเราได้เต็ม 15 วินาที แต่ก็ต้องทำให้มั่นใจเช่นเดียวกันว่าโฆษณาของเราน่าสนใจมากพอที่จะดึงดูดความสนใจของผู้ชม และนั่นก็คือหน้าที่เราจะทำให้โฆษณาของคุณจะอยู่ในสายตาของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด
Bumper Ads: โฆษณาแบบ Bumper Ads จะใช้เรียกโฆษณาที่กดข้ามไม่ได้ แต่มีความยาว 6 วินาที ไม่ให้ผู้ชมรู้สึกรำคาญมาก ในขณะที่สามารถโผล่มาที่วิดีโอของกลุ่มลูกค้าได้บ่อยๆ


3 – Discovery Advert – โฆษณาแนะนำวิดีโอ
โฆษณาแนะนำวิดีโอจะเป็นโฆษณาประเภทใหม่ที่จะไม่ใช่แบบเหมือนโฆษณาทีวีปัจจุบัน แต่จะเป็นเหมือนสิ่งที่เราจะเห็นได้จากหน้า SERPs (Search Engine Result Page – หน้าแรกค้นหา) เวลาที่เราค้นหาอะไรซักอย่าง
โฆษณาแนะนำวิดีโอมักแสดงคู่กับผลการค้นหาปกติเวลาที่เราค้นหาวิดีโอดู ดังนั้นการที่วิดีโอของเรามีความเกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ใช้มากกว่าวิดีโออื่นๆ หรือในระดับใกล้เคียงกัน วิดีโอโฆษณาของเราก็จะแสดงผลและมีโอกาสสูงมากที่คนจะคลิกดู
โฆษณาแนะนำวิดีโอมักจะใช้ประกอบไปด้วยภาพ thumbnail ผสมกับคำอธิบายราวๆ 3 บรรทัด และเมื่อมีคนกดที่โฆษณาของเรา พวกเขาจะไปโผล่ที่ไหนก็ได้ที่เราต้องการ เช่น วิดีโอในช่องยูทูบของเรา หรือหน้าเว็บไซต์ของเราก็ได้
Sidebar: โฆษณาแนะนำวิดีโอจะใช้หลักการ TrueView เช่นกัน ดังนั้นไม่ต้องกลัวว่างบจะบานปลายเพราะคนต้องเข้าดูเยอะในระดับหนึ่ง เราถึงจะต้องเสียตังค์ค่าโฆษณา
4 – Non-video advert – โฆษณาที่ไม่ใช่วิดีโอ
เชื่อหรือไม่ว่า การทำโฆษณายูทูบสามารถทำได้แบบไม่ต้องใช้วิดีโอโฆษณาก็ได้เหมือนกันนะ และวิธีนี้จะเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีงบประมาณในการโฆษณาไม่สูงมาก หรือถ้าหากต้องการทีมที่เชี่ยวชาญในการทำโฆษณา YouTube ในราคาไม่แพง CSME Marketing เอเจนซี่จัดทำโฆษณาออนไลน์ กรุงเทพ สามารถช่วยคุณได้
- Display Ads: วิธีจะทำให้โฆษณาของเราแสดงผลอยู่ข้างขวา จะมีทั้งรูปภาพและข้อความของเราอยู่ที่เดียวกัน เมื่อกดที่รูปภาพ โฆษณาก็จะพาผู้ชมมายังเว็บไซต์ของเรา
- In-video overlays ads: โฆษณาที่จะอยู่ทางด้านล่างของวิดีโอ ที่สามารถกดปิดได้
โดยปกติแล้ว เราก็อยากให้โฆษณาของเราไปอยู่ในหมู่คนดูที่เกี่ยวข้อง หรือไปโชว์กับคอนเทนต์ที่ใกล้เคียงกัน แต่เอาเข้าจริง เราไม่สามารถคาดการณ์เรื่องนั้นได้เลย

ขั้นตอนการทำโฆษณา YouTube
Step 1 – กำหนดเป้าหมายในการทำโฆษณา
แรกสุดเราก็ต้องเข้าใจก่อนว่าจุดประสงค์ของการทำโฆษณาคืออะไร โดยมากก็จะมี:
- เพิ่มยอดขายโดยตรง
- เพิ่มความสนใจในสินค้า
- เพิ่มทราฟิกให้กับเว็บไซต์
- ทำให้แบรนด์กลายเป็นตัวเลือกของลูกค้าให้ได้
- เพิ่มการเข้าถึงและการรับรู้แบรนด์
หลังจากนั้นเราก็จะลองดูว่าแคมเปญประเภทไหนที่เหมาะกับการตลาดของคุณ เช่น จะเป็นโฆษณาวิดีโอ หรือโฆษณาที่เน้นการค้นหาเป็นหลัก
ต่อจากนั้นก็จะเป็นการเลือกพารามิเตอร์ ข้อความทางการตลาด และจัดเรียงโฆษณาเพื่อให้ง่ายต่อการจัดการในอนาคต
Step 2 – กำหนดค่าพารามิเตอร์ (campaign parameters)
อย่างแรกเลย เราต้องรู้ก่อนว่ากลยุทธ์ในการทำ bid strategy ของเราคืออะไร เช่น คุณอาจจะโฟกัสกับคลิก, ต้องการยอดวิวให้คนรับรู้ หรือโฆษณานี้จำเป็นต้องมียอดซื้อให้ได้
จากนั้น เราต้องมาดูงบประมาณเริ่มต้นกันว่าเราต้องการจะใช้เงินมากแค่ไหนในแคมเปญโฆษณาแต่ละตัว (แต่ไม่ต้องห่วง ทีมการตลาดโฆษณายูทูบของเราพร้อมจะจัดการเรื่องยุ่งยากเหล่านั้นให้เอง)
หลังจากนั้น เราจะช่วยแนะนำว่าคุณควรจะทำโฆษณายูทูบประเภทไหนดี
- วิดีโอแนะนำอย่างเดียว (หน้าแรกค้นหา YouTube)
- ทุกๆ ภาคส่วนที่ YouTube มีให้
- พาร์ทเนอร์ของ YouTube
อีกปัจจัยที่สำคัญก็คือการเลือกภาษาและตำแหน่งที่ต้องการให้โฆษณาแสดงผล อย่างเช่น ลูกค้าส่วนใหญ่ของ CSME Marketing สาขากรุงเทพ ก็จะเน้นลูกค้าที่เป็นคนไทย และคนไทยที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ต่อมาเราก็จะมาพูดถึงว่าแบรนด์ของคุณมีภาพลักษณ์ที่เคร่งครัดมากขนาดไหน เช่น ต้องการให้มีสื่อผู้ใหญ่ได้มากแค่ไหน คำหยาบ หรือคอนเทนต์ที่มีส่วนผสมของความรุนแรง เป็นต้น สิ่งเหล่านี้บางแบรนด์ก็ไม่ต้องการให้โฆษณาของเราไปแสดงผลที่เกี่ยวข้องกับสิ่งเหล่านั้น ซึ่งแล้วแต่ว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณจะเป็นใครกันบ้าง เพราะมันคงไม่ดีน่าถ้าคุณเป็นสินค้าเด็ก แต่ไปโฆษณาในวิดีโอ “10 ฉากหนังสยองตลอดกาล”
ข้อกำหนดเหล่านี้ในทางการตลาดดิจิทัลบางคนอาจคุ้นกันในชื่อของ พารามิเตอร์ (parameter) ซึ่งเมื่อเรากำหนดค่าพารามิเตอร์เรียบร้อยแล้ว เราก็จะไปสู่จุดต่อไป…
Step 3 – ทำความเข้าใจกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย
ถ้าคุณไม่ได้มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย (buyer persona) อยู่แล้วครีเอทีฟมาร์เกตติ้งที่เชี่ยวชาญในด้านการทำการตลาดบน YouTube ยินดีที่จะช่วยเหลือในการมองหา และทำความเข้าใจกลุ่มผู้ชมเป้าหมาย เพื่อให้ง่ายต่อการทำโฆษณาว่าเราจะโฟกัสไปที่ใครดี และปรับแต่งให้เหมาะสมที่สุด
- กลุ่มประชากร: ข้อมูลกลุ่มประชากรที่คุณกำลังมองหาก็คือ อายุ เพศ สถานะครอบครัว รายได้ต่อครอบครัว ฯลฯ มากกว่านั้น YouTube ยังมีข้อมูลเชิงลึกบางอย่างไว้ให้เพิ่มเติม เช่น เจ้าของบ้านคนใหม่ หรือ นักเรียน เป็นต้น
- ความสนใจ: ข้อมูลความสนใจจะช่วยให้เราเข้าถึงผู้ชมเป้าหมายได้เจาะจงมากขึ้น โดยใช้ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานยูทูบของแต่ละคน เช่น หากมีคนค้นหาคำว่า โรงแรม กรุงเทพ ธุรกิจโรงแรมก็จะแสดงผลให้ผู้คนเหล่านั้นเห็น
- Remarketing/retargeting: เราสามารถตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของเราในอดีตได้ด้วย ไม่ใช่แค่เว็บไซต์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงวิดีโอในช่องและแอพลิเคชั่น (หากมี) อีกด้วย
Step 4 – แคมเปญพร้อมเผยแพร่แล้ว
หลังจากใส่ลิงค์ที่เชื่อมไปยังเว็บไซต์ของเราแล้ว แคมเปญของเราก็พร้อมที่จะเผยแพร่ ในส่วนนี้เราอาจจะเพิ่มความครีเอตหรือทดลองสิ่งต่างๆ ได้ โดยการเพิ่มตัวเลือกในการแสดงผล ซึ่งโฆษณาบางประเภทจะช่วยส่งเสริมกันและกันได้ด้วยนะ
เราพัฒนาแนวทางในการทำโฆษณาอยู่เสมอ
YouTube คือช่องทางการทำโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดทางหนึ่ง ซึ่งสามารถปรับแต่งได้อย่างอิสระ แต่อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จของโฆษณาโดยรวมก็ยังขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้าถึงกลุ่มผู้ชมเป้าหมายได้มากแค่ไหน มาดูกันว่าเราจะมีวิธีการเข้าถึงอย่างไรได้บ้าง
จับความสนใจของผู้ชมในทันที
สะท้อนความสนใจของผู้ชมออกมา ทั้งอารมณ์ ความรู้สึก หรือแม้กระทั่งคนที่คุ้นเคยหรือเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว (ถ้าหากคุณมีงบอ่ะนะ) เพื่อที่จะทำให้ผู้ชมรู้สึกอยากจะดูโฆษณาเราต่อในทันทีที่เห็น
สร้างชื่อโดยเร็ว
ส่วนมากแล้ว โฆษณาที่ทำงานได้อย่างดีที่สุดก็คือโฆษณาที่แสดงให้เห็นชื่อแบรนด์ หรือภาพจำของแบรนด์ในช่วง 5 วินาทีแรก จากนั้นก็โผล่ขึ้นมาเป็นระยะตลอดการโฆษณา ซึ่งแน่นอนว่ามันก็จะขึ้นอยู่กับประเภทของโฆษณาที่คุณต้องการจะทำด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่นโฆษณาที่มุ่งเป้าไปที่คนที่คุ้นเคยกับแบรนด์ของเราอยู่แล้ว การกล่าวถึงชื่อแบรนด์ก็อาจยกไว้พูดทีหลัง ในขณะที่ผู้ชมกำลังให้ความสนใจกับเรื่องราว หรือโฆษณาของเราอยู่ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยเพิ่มยอดวิวให้กับเราได้เพิ่มขึ้น และสุดท้าย พวกเขาจะมีความอ่อนไหวกับแบรนด์หรือสินค้าของเรามากขึ้น จากการที่รับรู้และใช้เวลาไปกับการเล่าเรื่องราวของเรา
การทำแบรนด์ หรือการสร้างชื่อ จริงๆ ไม่ใช่แค่ปาโลโก้ใส่หน้าคนดูตั้งแต่ 5 วินาทีแรก มันคือการทำให้แบรนด์หรือสินค้าของเราสัมพันธ์กับลักษณะนิสัยของกลุ่มผู้ชมอย่างแท้จริง และโฆษณาของเราต้องมีความเข้ากันได้ทั้งโทนเสียง สินค้า และกลยุทธ์ในการโฆษณา
หากคุณรู้สึกว่าทั้งหมดนี้มันอาจจะเยอะไป หรือยุ่งยากเกินไป ผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดและโฆษณา YouTube ของเราที่ CSME Marketing สามารถช่วยคุณได้ ยกระดับแบรนด์ของคุณและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แล้ววันนี้!
เราเน้นสร้างเรื่องราวที่จะสะกดทุกอารมณ์
ที่ CSME Marketing เราเก่งในการสร้างเรื่อง เพราะในที่สุดแล้ว การทำการตลาดและการโฆษณามันก็คืออการสร้างและส่งต่อเรื่องราว ที่จะทำให้ผู้คนสนใจ สร้างการมีส่วนร่วมของผู้ชม ทั้งอารมณ์และความรู้สึก และไกด์การกระทำว่าเมื่อเห็นโฆษณาตัวนี้แล้ว ต้องทำอย่างไรต่อไป เพราะฉะนั้น ได้เวลามาสร้างเรื่องราวที่จะสะกดทุกอารมณ์ของคนดูกันเถอะ!
แสดงให้ผู้คนเห็นว่าต้องทำอะไรต่อไป
การมีโฆษณายูทูบ หรือโฆษณาโดยปกติอื่นๆ จะมีประโยชน์อะไรหากคนดูไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อ ซึ่งการวัดผลความสำเร็จของโฆษณา จะใช้การกระทำของผู้ชมที่เราต้องการนี่แหละเป็นตัวชี้วัด
ถ้าหากเป้าหมายของการทำโฆษณาเป็นอะไรอย่างเช่น การคลิกชม เลือกซื้อ เปลี่ยนเป็นลูกค้าโดยทันที หรือเพียงแค่ต้องการเพิ่มทราฟิกให้กับเว็บไซต์ การตั้งค่าโฆษณาแบบ TrueView น่าจะตอบโจทย์มากที่สุด เพราะการตั้งค่าเช่นนี้จะเพิ่มส่วนที่คลิกได้ นำพาลูกค้าไปสู่หน้าเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น บางทีสามารผ่านไปสู่เว็บไซต์ได้เลยแบบไม่ต้องรอดูโฆษณาจนจบก็ได้ (เหมาะมากสำหรับวิดีโอที่ดึงดูดความสนใจตั้งแต่แรกเห็น)
ต้องการลองรับคำปรึกษาฟรีไหม?
โดยปกติแล้วถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ หลายท่านอาจจะรู้สึกเมาหัวจากปริมาณข้อมูลที่เยอะมากๆ ในการตั้งค่าโฆษณายูทูบ รวมถึงบริการการทำการตลาดหลายๆ อย่าง ละพอมานึกถึงว่าเรายังแทบไม่ได้ลงลึกรายละเอียดอะไรเลยด้วยซ้ำนะ! การทำโฆษณายูทูบมีองค์ประกอบที่หลากหลายมากๆ ตั้งแต่การสร้าง การรันโฆษณา และการปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม ซึ่งเราพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือคุณเท่าที่เราจะทำได้
ในการเป็นที่ปรึกษาด้านการตลาดแบบฟรีๆ ของเราจะช่วยระบุเป้าหมายโดยรวมที่คุณอาจจะต้องการ เราสามารถเข้าร่วมการพูดคุยเพื่อดูว่าเราเหมาะสมที่จะทำงานร่วมกันหรือไม่ แล้วจากนั้นก็เริ่มทำความเข้าใจธุรกิจของคุณ แบรนด์ของคุณ และการวางแผนในระยะยาว เพื่อให้ง่ายต่อครีเอทีฟของเราที่จะวางระบบการทำงานเพื่อช่วยเหลือธุรกิจของคุณต่อไป
ติดต่อเรามาตอนนี้ แล้วเติบโตไปพร้อมกัน!